เด็กเก็บบอล : พระเจ้าอำลาสนามหญ้า
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ชายที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘พระเจ้า’ แห่งโลกลูกหนัง ตอนนี้เขาได้ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวัย 41 ปี ถือว่าเป็นนักเตะอายุเยอะที่ยังคงรักษาความฟิตและเล่นในลีกใหญ่มาได้อย่างยาวนาน
ซลาตัน เกิดในวันที่ 3 ตุลาคม 1981 ประเทศสวีเดน เขาเติบโตขึ้นมาในบ้านที่มีฐานะเข้าขั้นยากจน เขาเป็นหนึ่งในลูกห้าคนของครอบครัว อาศัยอยู่ในย่านที่อันตรายของเมืองมัลโม คุณพ่อของเขาเป็นคนที่ดื่มสุราหนักแทบทุกคืน ในตู้เย็นไม่มีอะไรนอกจากเบียร์ ปล่อยให้เด็กๆ ใช้ชีวิตไปตามยถากรรม จนนักสังคมสงเคราะห์ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยหลายครั้ง
ถ้าไม่ได้ตกหลุมรักฟุตบอล อิบราฮิโมวิช บอกว่าเขาอาจจะลงเอยด้วยการติดคุก ในวัยเด็กเขามีพรสวรรค์ในการขโมย เรียนรู้ที่จะสะเดาะกุญแจและขโมยรถจักรยาน ครั้งหนึ่งเขาเคยขโมยรถจักรยานของบุรุษไปรษณีย์ รวมทั้งรถจักรยานของโค้ชทีมฟุตบอล
สิ่งที่ ซลาตัน แสวงหามาตลอด คือ การได้รับการยอมรับและความเคารพ เขาได้รับมันจากสนามฟุตบอลใกล้บ้านที่เต็มไปด้วยฝุ่น เขาที่ไม่เคยรู้สึกว่าเข้ากันได้กับสังคม ชัยชนะในสนามฟุตบอลนั้นไม่พอแต่ต้องชนะแบบมีสไตล์ และได้แสดงทักษะหรือทริคต่างๆ ซึ่งบางครั้งสำคัญกว่าประตูที่ยิงได้ เพราะนั่นทำให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่น จากจุดเริ่มต้นตรงนั้นเอง
เขาโลดแล่นบนสังเวียนลูกหนังมาเกือบ 24 ปี โดยเริ่มต้นค้าแข้งที่เมืองบ้านเกิดในปี 1999 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมส์, ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แอลเอ กาแล็กซี จากนั้นเขากลับมาร่วมทัพ ‘ปีศาจแดงดำ’ อีกครั้งในปี 2020
จนมาถึงวันที่ 5 มิถุนายน ดาวยิงวัยเก๋าได้ประกาศแขวนสตั๊ด พร้อมกล่าวอำลาแฟนบอลของ เอซี มิลาน ทั้งน้ำตา ที่สนามซานซิโร หลังจบเกมนัดปิดท้ายฤดูกาล เจ้าตัวเคยบอกว่าต้องการค่าแข้งต่อไป แต่ล่าสุดเขาเปลี่ยนความคิดและตัดสินใจอำลาวงการลูกหนังอย่างเป็นทางการ เพชฌฆาตสูงวัยทำผลงานยิงประตูไปทั้งหมด 511 ประตู จากการลงเล่น 866 นัด ให้กับทุกสโมสรรวมกัน
“ครั้งแรกที่ผมมาอยู่กับ มิลาน คุณมอบความสุขให้กับผม ครั้งที่สองคุณมอบความรักให้ผม ผมขอขอบคุณจากหัวใจ” อิบราฮิโมวิช กล่าว
“คุณต้อนรับผมอย่างจริงใจ คุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ผมจะเป็นแฟนบอล มิลาน ตลอดไป ถึงเวลาที่ผมต้องอำลาฟุตบอล แต่ไม่ใช่การอำลาพวกคุณ” เขากล่าว ท่ามกลางเสียงปรบมือจากแฟนบอลในสนาม
เขียนโดย The Lite Team.